
Animal on Earth (สัตว์น้อยในป่า)
ป่าชายเลนมีความสำคัญต่อประชากรสัตว์ เนื่องจากเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย เป็นแหล่งอาหาร เป็นแหล่งผสมพันธุ์และอนุบาลตัวอ่อน และเป็นที่หลบภัยของสัตว์นานาชนิด
สัตว์ในป่าชายเลน
สัตว์ที่อาศัยอยู่หน้าดิน, ในดิน, ในเนื้อไม้ และในน้ำ ในป่าชายเลนได้แก่ กุ้ง กั้ง ปู หอย ปลาตีน ปลาชนิดต่าง ๆ แมงกะพรุน แมงดา ไส้เดือนทะเล เพรียง หนอนทะเล งูทะเล ไอโซพอด เป็นต้น
สัตว์บกและสัตว์เลื้อยคลาน ในป่าชายเลน
ได้แก่ แมลงและแมงต่างๆ เช่น แมงมุม ผีเสื้อ ตัวต่อ ผึ้ง มด หิ่งห้อย กิ้งก่า ตุ๊กแก ตะกวด เหี้ย งู เต่าทะเล เป็นต้น
สัตว์ที่โดดเด่น หรือพบเห็นเป็นประจำ
ในป่าชายเลน จ.ตราด

ปลาตีน
ชื่อสามัญภาษาอ ังกฤษ : Mudskipper
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Periophthalmodon
เป็นปลาที่สามารถเดินบนดินเลนได้ด้วยครีบพิเศษใต้อก ใช้ยึดเกาะรากไม้
มีการเคลื่อนที่หลายวิธีนอกเหนือจากการว่ายน้ำ เช่น การพยุงตัวในการจับอาหาร และการแฉลบ ใช้ในการหนีผู้ล่า จะสะบัดหางเพื่อช่วยในการกระโดด ปีน และไต่ไปบนเลน ทำให้เกิดรอยทิ้งไว้ เกิดเป็นลวดลายที่สวยงามบนดินเลน
ปลาตีนมีการหายใจทางเหงือกโดยจะฮุบอากาศผ่านน้ำ เก็บไว้ในช่องเหงือกด้านใน มีเส้นเลือดฝอยจำนวนมากเพื่อแลกเปลี่ยนแก๊ส และสามารถหายใจผ่านผิวหนังได้
ปลาตีนกินทั้งพืชและสัตว์ แต่มีบางกลุ่มกินเฉพาะพืช บางกลุ่มกินเฉพาะสัตว์
ปลาตีนจะขุดรูไว้เป็นที่หลบภัย และวางไข่สืบพันธุ์
หากมีศัตรูก็จะกางครีบหลังเพื่อเป็นการข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม
และอีกหนึ่งความสามารถพิเศษของปลาตีนคือ
การเปลี่ยนสีลำตัว และปรับอุณหภูมิร่างตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป
กุ้งดีดขัน
ชื่อสามัญภาษาอังกฤษ : Snapping shrimps
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Alpheus sp.
เมื่อนำกุ้งชนิดนี้มาใส่ไว้ในขัน แล้วใช้ก้านไม้เล็ก ๆ แหย่บริเวณก้ามหนีบ กุ้งจะใช้ก้ามหนีบเข้าหากันทำให้เกิดเป็นเสียง ชาวบ้านจึงเรียกว่า "กุ้งดีดขัน"
บางพื้นที่เรียกว่า "กุ้งกระเต๊าะ" หรือ "กุ้งยิง" กุ้งดีดขันสามารถงับก้ามทำให้เกิดเสียงดัง "ป๊อก ป๊อก" ซึ่งเป็นอาการที่ทำเพื่อข่มขวัญศัตรู หรือล่าเหยื่อ
การใช้ก้ามงับกันสามารถสร้างแรงดันน้ำได้ประมาณ 80 กิโลปาสคาล ในรัศมี 4 เซ็นติเมตร ซึ่งมีความรุนแรงพอที่จะทำให้ปลาตัวเล็กๆ ช็อคตายได้
เสียงงับก้ามของกุ้งดีดขันมีความดังถึง 218 เดซิเบล/ไมโครปาสคาล/เมตร
(เสียงของน้ำตกไนแองการ่าดัง 90 เดซิเบล เสียงในโรงงานอุตสาหกรรมดัง 80 เดซิเบล เสียงพูดคุยปกติดัง 30เดซิเบล)
กุ้งดีดขันจะกินอินทรีย์สารและสัตว์ขนาดเล็กเป็นอาหาร อาศัยอยู่ในรูและคอยดักจับเหยื่อ
ในประเทศไทยนำมาเลี้ยงเป็นกุ้งสวยงาม มันถูกนำมาทำเป็นเมนูอาหารของมนุษย์ และเป็นเหยื่อตกปลา


หอยขี้ค้อน
ชื่อสามัญภาษาอังกฤษ : Mud creeper
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Terebralia palustris
หอยขี้ค้อน หรือ "หอยหลักควาย" เรียกอีกชื่อว่า "หอยมรกต"
เพราะเนื้อด้านในมีสีเขียวมรกต มีเปลือกค่อนข้างหนา และแข็ง มีลวดลายหยักที่ช่วยในการเจาะดินหรือไม้
ชื่อ "ขี้ค้อน" มาจากลักษณะของรูที่หอยชนิดนี้เจาะไว้ในดินหรือไม้ คล้ายกับรอยที่ถูก "ค้อน" ตอกหรือทุบ นอกจากนี้คำว่า "ขี้" ในภาษาท้องถิ่นอาจหมายถึง ร่องรอยหรือคราบ ที่หลงเหลือไว้จากการเจาะหรือขุดรู หอยขี้ค้อนขุดรูเพื่อหลบซ่อนและหาอาหาร ส่วนใหญ่กินอินทรีย์สารที่อยู่ในดิน
กินสาหร่ายเซลล์เดียว และของเน่าเปื่อย การขุดรูนี้ช่วยให้น้ำและอากาศไหลผ่านดินเลนได้ดีขึ้น
และมันคือ สุดยอดวัตถุดิบในทะเล นำมาทำเป็นเมนูอาหารรสเลิศ และการที่ถูกนำมาประกอบอาหารในเมนูต่างๆ หอยขี้ค้อนจึงมีจำนวนลดลงไปมาก